ทุ่มทุนเกือบ 1,000 ล้านบาทในการสร้าง ทำให้ Shaolin กลาย เป็นหนังแอ็คชั่นจากประเทศจีนที่ลงทุนสูงที่สุดแห่งปี 2010 โดยทีมงานยังได้ใช้เวลากว่า 4 เดือนในการสร้างวัดเส้าหลินขนาดเท่าของจริงขึ้นมาใหม่ โดยผู้กำกับ เบนนี่ ชาน ที่เคยมีผลงานแอ็คชั่นสุดมันส์มาแล้วอย่าง New Police Story ให้เหตุผลว่า “เพราะตอนนี้มีนักท่องเที่ยวมากเกินไป แถมยังมีฉากแอ็คชั่นเกิดขึ้นภายในวัดเส้าหลินมากมาย พวกเรากลัวว่าการถ่ายทำจะทำลายความขลังของสถานที่จริง เราจึงตัดสินใจจำลองสถานที่ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด”
Shaolin นำแสดงโดยสองนักแสดงแถวหน้าของวงการหนังเอเชียอย่าง หลิวเต๋อหัว และ เซี๊ยะถิงฟง โดยพระเอกที่รับบทโดย หลิวเต๋อหัว เผยว่าตัวเองเกือบที่จะบอกบัดบทนี้ไปแล้ว “ตอน แรกที่ผมได้อ่านบท ผมกลัวว่าฝีมือกังฟูของตัวเองจะไม่ได้ตามมาตรฐานของมวยวัดเส้าหลิน แต่เมื่ออ่านต่อไปผมก็รู้สึกประทับใจกับเส้นทางชีวิตของแม่ทัพ และก็ทำให้ผมอยากถ่ายทอดตัวเขาออกมาให้ดีที่สุด” ในขณะที่ เซี๊ยะถิงฟง ที่รับบทเป็นผู้ร้ายครั้งแรก เผยถึงบทบาทของเขาว่า “ผมสนุกกับบทนี้มากครับ เพราะถึงแม้ว่าเขาเป็นผู้ร้าย แต่คุณก็เข้าใจในเหตุผลของการกระทำ เขาเป็นคนที่รักชาติ แต่ความรักชาติและเป้าหมายก็ไปเบียดเบียนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น”
Shaolin อำนวยการสร้างโดย เฉินหลง โดยนอกจากการเป็นผู้อำนวยการสร้างแล้ว เขายังรับบทสำคัญบทหนึ่งของหนังอีกด้วย เขาเล่าถึงการทำงานว่า “ผม อยากถ่ายทอดตำนานของเสี้ยวลิ้มยี่ให้ออกมาเที่ยงตรงมากที่สุด โดยนอกที่จะมีเรื่องราวที่เข้าถึงใจของทุกคนแล้ว ผมยังอยากที่จะถ่ายทอดกระบวนท่าหมัดแห่งวัดเส้าหลิน ให้ถูกต้องอีกด้วย โดยครั้งนี้เราก็ได้ผู้กำกับคิวบู๊อย่าง โครี่ หยวน (Red Cliff I-II, Transporter 3 และ So Close) มาทำงานให้ ซึ่งเขาก็ถือเป็นมือออกแบบคิวบู๊ดีที่สุดคนหนึ่งของวงการ”
ผู้กำกับ เบนนี ชาน ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้จาก The Shaolin Temple (1982) หรือ เสี้ยวลิ้มยี่ ที่นำแสดงโดย เจ็ต ลี อย่างไรก็ตาม เบนนี พยายามให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดท่าต่อสู้ที่แตกต่างจากของ เจ็ต ลี ในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกด้วย
วัดเส้าหลินมีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดป่าบนเขาเส้าซื่อ ตั้งอยู่ในอำเภอเติงเฟิง เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในยุคของราชวงศ์วุ่ย แต่มามีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องศิลปะการต่อสู้ในยุคราชวงศ์ถัง วัดเส้าหลินถูกเผาทำลายหลายครั้งในช่วงกลียุคก่อนที่จะกลายเป็นสาธารณรัฐ
ในเดือนกันยายน 2009 ทีมงานกว่า 150 คน ที่มีทั้งสถาปนิก ช่างเหล็ก ช่างไม้ ช่างอิฐ และช่างทาสี เริ่มจำลองวัดเส้าหลินขึ้นมาใหม่ทั้งหมดในพื้นที่ 100,000 ตารางฟุต นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีน ที่มีการสร้างสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าของจริงกว่า 3 เท่า
ทีมงานกว่า 50 คนสร้างพระพุทธรูปยักษ์ที่มีความสูงกว่า 10 เมตรและมีน้ำหนักมากกว่า 10 ตันขึ้นมา พวกเขาใช้เวลาหลายเดือนในการแกะหน้าพระพุทธรูปเพียงอย่างเดียว ขณะที่องค์พระถูกแบ่งออกเป็น 16 ส่วน ก่อนจะนำมาประกอยในฉากห้องโถงหลักของวัดเส้าหลิน
ต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นที่อยู่หน้าห้องโถงใหญ่ สร้างขึ้นจาก่อนซุงจากภูเขาเทียนมู่ ใบไม้ทุกใบถูกติดด้วยมือ ขระที่กำแพงก็สร้างมาจากหินจากภูเขาเทียนมู่ และลายพื้นก็ได้รับการอ้างอิงมาจากบ้านในราชวงศ์หมิง ด้วยความที่ภูเขาเทียนมู่เป็นเขตสงวน ทีมงานสร้างจึงต้องเดินทางไกลไปสำรวจองค์ประกอบภายในตัววัด เพื่อให้ฉากที่สร้างออกมาสมจริงที่สุด
ในบริเวณวัดเส้าหลินมีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางฟุต มีสถานที่สำคัญอยู่ 7 แห่ง ได้แก่ ซานเหมิน (ประตูเข้าเขตแดนวัดเส้าหลิน) ห้องโถงสี่ทิพยกษัตริย์ ห้องโถงมหาวีระ หอคอยระฆังและหอคอยกลาง โรงอาหารหลี่สเหวย ห้องโถงพระพุทธรูปพันองค์ และห้องเจ้าอาวาส หลังจากเส้าหลินของจริงถูกแม่ทัพ ซื่อโหยวซาน เผาทำลายในปี 1928 สถานที่ที่เหลืออยู่มีเพียงซานเหมิน โรงอาหารหลี่สเหวย และ ห้องโถงพระพุทธรูปพันองค์เท่านั้น
ซานเหมิน ประตูสู่วัดเส้าหลิน ถูกสร้างขึ้นในปี 1735 และได้รัยการบูรณะในปี 1974 โดยเหนือประตูจะมีป้ายสีดำสี่เหลี่ยมผืนผ้า จารึกด้วตัวหนังสือสีทองว่า วัดเส้าหลิน ซึ่งเขียนโดยจักรพรรดิ์คังซี โดยมีตราประทับพร้อมกับตัวหนังสือว่า สมบัติของของจักรพรรดิ์คังซี
ห้องโถงสี่ทิพยกษัตริย์ตั้งอยู่ด้านในสุดของวัดเส้าหลิน ได้ชื่อมาจาก สัญลักษณ์ของเทพสี่องค์ นั่นคือ เทพแห่งลม เทพแห่งการปกครอง เพพแห่งฝน และเทพแห่งการยินยอม ภายในห้องโถงมีกำแพงสีแดงและกระเบื้องสีเขียว มีรูปภาพที่มีสีสันบนเสาที่รองรับน้ำหนักของคาน มีรูปปั้นพระวจนะสีทองยืนอยู่ 2 ฝั่งประตู และมีแผ่นศิลาจารึกของทุกราชวงศ์เรียงรายอยู่
ที่พักของแม่ทัพ โฮ่วเจีย ที่รับบทโดย หลิวเต๋อหัว เรียกว่า ลู่ไจ๋ ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง สถานที่มีอยู่จริงมานานกว่า 500 ปีแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ทางประวัติสาสตร์ของชาติจีน และเป็นสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดในเขตเจียงหนาน
No comments:
Post a Comment