หลายๆคนคงเคยสงสัยเหมือนกันว่า ในสมัยก่อนที่วิถีชีวิตของคนไทยเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานและคลุกคลีอยู่กับดินกับป่านั้น เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ใส่แต่ละวันก็คงจะสกปรกเอาเรื่อง แล้วชาวสยามในสมัยก่อนนั้นเค้าขจัดคราบสกปรกบนเสื้อผ้าได้ยังไงกัน
วันนี้มีคำตอบสำหรับข้อสงสัยนี้มาเล่าให้ฟังค่ะ
หากเปรียบเทียบระหว่างสมัยก่อนกับสมัยนี้แล้ว การซักผ้าในสมัยก่อนนั้นลำบากกว่าสมัยนี้อย่างเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว
หญิงชาวสยามสมัยก่อนจะมีอุปกรณ์การซักผ้าอย่างหนึ่งที่เราไม่เห็นกันแล้วสมัยนี้นั่นก็คือไม้ทุบผ้า.. ที่เอาไว้ทุบคราบเหงื่อไคลบนเสื้อผ้าออก ซึ่งการทุบให้คราบออกได้นั้น ก็จะต้องใช้แรงเยอะเลยค่ะ กว่าจะซักเสร็จเนี่ย.. เรียกว่ากล้ามขึ้นกันเลย
แต่หากเป็นคราบสกปรกที่ติดแน่นหน่อย หญิงสยามจะใช้น้ำด่างจากขี้เถ้าไม้แสม (หรือก็คือน้ำที่ได้จากการนำขี้เถ้าไม้แสมมาต้ม แล้วทิ้งค้างคืนไว้ให้ขี้เถ้าตกตะกอน) มาใช้เป็นน้ำแช่ผ้าเพื่อสลายคราบสกปรกก่อนนำไปทุบหรือขยี้ หลังจากทุบหรือขยี้เสร็จแล้วก็อาจจะมีการนำไปต้มในลังถึง(ซึ้ง) เพื่อขจัดคราบเหงื่อไคลก่อน แล้วจึงนำมาล้างตากได้
และนอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้หอมหัวใหญ่ฝานแล้วทาลงบนคราบก่อนซักได้อีกด้วยนะคะซึ่งมีคุณสมบัติขจัดคราบสกปรกได้ดี โดยเฉพาะผ้าเนื้อหนาอย่างผ้าไหมค่ะ
คนไทยใช้วิธีเหล่านี้ในการซักผ้ามานมนาน จนกระทั่งเมื่อประมาณ พ.ศ. 2470 ได้มีการนำสบู่เข้ามาใช้ในสยามเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเป็นที่ฮือฮาเลยทีเดียวค่ะ เพราะพอสบู่เข้ามาในสยามตอนนั้นก็ได้ เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนไทยไปหลายๆอย่าง ซึ่งง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
จากการใช้ไม้ทุบผ้าซักผ้า.. ชาวสยามก็เริ่มใช้สบู่ซักผ้าแทน
จากการใช้มะขามเปียกอาบน้ำ.. ชาวสยามก็เริ่มใช้สบู่อาบน้ำแทน
จากการใช้มะนาวล้างจาน.. ชาวสยามก็เริ่มใช้สบู่ล้างจานแทน
สบู่สมัยนั้นเรียกว่าเป็นสบู่เอนกประสงค์เลยทีเดียวค่ะ
ก้อนเดียวใช้ชำระล้างคราบสกปรกได้ทุกอย่าง
แล้วสบู่สมัยนั้น ก้อนเท่าบ้านเลยนะเออ
อย่างสบู่ซันไลต์ ก้อนเบ้อเร่อแบบนี้
(นอกจากนี้ยังมีสบู่ตราธง สบู่ตราเป็ด ที่เป็นที่นิยมมากในขณะนั้น เพราะราคาถูกกว่า)
และหลังจากที่ชาวสยามใช้สบู่เอนกประสงค์กันได้ไม่นาน ก็มีสุดยอดการคิดค้นสิ่งมหัศจรรย์ (สำหรับชาวสยามเวลานั้น) นั่นก็คือผงซักฟอก ซึ่งมีการผลิตใช้ในสยามเมื่อปี พ.ศ.2475 โดยยี่ห้อแรกที่มีขายคือ “พรรณอร” (ซื้อได้ที่รถขายยาเท่านั้น) ซึ่งเป็นผงซักฟองที่ต้องละลายในน้ำเดือด ก่อนนำผ้าแช่ลงไปในนั้นแล้วบิดตาก แต่ด้วยความที่มีกลิ่นสารเคมีค่อนข้างฉุน จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ชาวสยามก็ได้รู้จักกับผงมหัศจรรย์ชนิดใหม่ที่มีกลิ่นหอม และมีวิธีการซักที่ง่าย เพียงละลายกับน้ำแล้วนำผ้าลงขยี้ และแน่นอน.. ผงมหัศจรรย์ชนิดใหม่ที่ว่ามันจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก..
(แฟ้บ เป็นผงซักฟอกที่เป็นที่นิยมยี่ห้อแรก สมัยนั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และถูกนำชื่อยี่ห้อมาใช้เรียกแทนผงซักฟอกทุกยี่ห้อไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว)
และจากนั้นก็มี..
ก่อนที่ผงซักฟอกและผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดต่างๆจะถูกพัฒนาและมีให้เลือกใช้กันเกลื่อนมาจนถึงทุกวันนี้
และนี้ก็เป็น โฆษณา แฟ้บ รุ่นแรกๆของคนไทยค่ะ
ที่มา: ฟอร์เวิร์ดเมล
พี่ค้ะ พอดีอยากเอาข้อมูลพี่ลงทีซิสอ่ะค่ะ แต่อยากได้ที่มา ขอทราบข้อมูลได้ไหมคะ
ReplyDeleteที่มาไม่ทราบแน่ชัดค่ะ เพราะหลายเวบรวบรวมเอาไว้แต่ไม่มีที่มาเหมือนกันค่ะ คาดว่าเป็นเพราะมาจากหลายยี่ห้อ แต่ลองค้นหาดูให้แล้ว ถ้าแบบทางการหน่อยใช้ของโอโมได้ค่ะ ตามลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.omothailand.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A1
Deleteผงซักฟอกยี่ห้อแรกในประเทศไทยคือยี่ห้อ “พรรณอร”. ครับ. ถัดมาเป็น โอโม และ แฟ๊ป. ตามลำดับ. มีมาเมื่อประมาณ 70 กว่าปี. จากรถฉายหนังเร่
ReplyDeleteปัจจุบันผมอายุ 75 ปี. เคยได้ใช้ผงซักฟอก พรรณอร. ด้วยตนเองซักชุดนักเรียนเป็นครั้งแรกจากการใช้สบู่ลาย. โดยนำผงพรรณอรต้มใส่น้ำร้อนแล้วนำผ้าแช่...จากนั้นนำไปล้างได้เลย. แต่เหม็นสารเคมีมากกกกก