1957: สำนักข่าว BBC เผยแพร่ภาพ ทัศนีย์ภาพยุโรปในฤดูหนาวและชาวไร่คนหนึ่งกำลังมีความสุขในการดึงสปาเกตตี้ลงจากต้นไม้(ประมาณว่าเหมือนถั่วฝักยาว) พร้อมประกาศว่าชาวไร่ประเทศสวิคเซอร์แลนด์ประสบความสำเร็จในการปลูกต้นสปาเกตตี้แล้วจ้า ต่อไปนี้เราไม่ต้องง้อไข่อีกต่อไป เพราะต้นสปาเกตตี้นี้ออกผลเป็นสปาเกตตี้ ยาวๆ น่ากินมากๆ พร้อมกันนี้ BBC ได้กล่าวส่งท้ายว่า เส้นสปาเก็ตตี้นี้เหมาะแก่การกินกับซอสมะเขื่อเทศเป็นที่ชู๊ด!!
(อัตราความเชื่อ 1 เชื่อก็บ้าแล้ว แต่ผู้ชมต่างพากันโทรศัพท์ไปที่สถานีด้วยความอยากรู้วิธีปลูกต้นสปาเก็ตตี้เองบ้าง)
อันดับ 2: Sidd Finch
1985: Sports Illustrated นิตรสารกีฬาลลงภาพ นักกีฬาคนหนึ่งชื่อ Sidd Finch เขาสามารถขว้างเบสบอลไปไกลกว่า 168 mph และพุ่งแหลมไปไกลกว่า 65 mph โดยนายคนนั้นให้สัมภาษณ์ว่าตอนแรกนั้นเขาเล่นกีฬาไม่เอาไหนเลย จนกระทั้งเขาไปฝึกวิทยายุทธ์ที่วัดธิเบต จนเขามีพรสวรรค์ดังกล่าว
(อัตราความเชื่อ 5 ถ้านายบอกว่าไปฝึกที่วัดวัดเส้าหลินจะน่าเชื่อกว่า)
อันดับ 3: แปลงสี TV แบบเร่งด่วน ( Instant Color TV)
1962: บางครั้งบางทีเรื่องโกหกก็กลายเป็นเรื่องจริงเหมือนกัน เมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ทีวียังเป็นข่าวดำอยู่ และประเทศสวีเดนก็มีทีวีเพียงช่องเดียวเท่านั้น และก็ออกข่าวเรื่อง นาย Kjell Stensson ผู้วชาญแห่งสถานีดังกล่าวได้ประกาศว่า ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของกระผมสามารถทำให้สถานีโทรทัศน์ของเราแปลงภาพเป็นสีๆ ได้แล้วนะครับท่าน โดยใช้วิธีง่ายๆ โดยการดึงถุงน่องไนลอนคลุม!! จอโทรทัศน์ ผู้ชมนับแสนทำตามโดยไม่รอช้า(เหอๆ มุกมันใช้ได้)
(อัตราความเชื่อ 10 เนื่องจากว่ามีทางเป็นไปได้ และในอนาคตต่อมาทีวีก็มีช่องสีจริง!!)
อันดับ 4: The Taco Liberty Bell
1996: บริษัทกระดิ่ง The Taco Bell ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนชื้อกระดิ่งอิสรภาพและเปลี่ยนชื่อเป็นกระดิงอิสรภาพ Taco เพื่อลดหนี้สินของประเทศ และขอให้ผูกกระดิ่งไว้ที่บ้านเพื่อแสดงความโกรธแค้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แห่งชาติในฟิลาเดลเฟีย
(อัตราความเชื่อ 6 ผลคือประชาชนแห่มาซื้อ เจ้าของกระดิ่งรวยกันไป)
อันดับ 5: San Serriffe
1977: หนังสือพิมพ์อังกฤษ The Guardian ได้จัดโปรแกรทท่องเที่ยว เป็นสาธารณเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ ซองเซริฟฟ์ (San Serriffe ) ประกอบด้วยเกาะต่างๆรูปร่างเหมือนเครื่องหมายอัฒภาค (;) เป็นประเทศที่ตั้งในมหาสมุทรอินเดีย โดยมีสองเกาะ คือเกาะใหญ่ชื่ออัปเพอร์แคส (ตัวพิมพ์ใหญ่) และโลเวอร์แคส (ตัวพิมพ์เล็ก) ทั้งๆที่ความจริง มันไม่มีประเทศนี้บนโลกหรอกนะ
(อัตราความเชื่อ 7 เรื่องนี้โดนหลอกอย่างกว้างขวาง)
อันดับ 6: นิกสันเพื่อประชาชน (Nixon for President)
1992: วิทยุสาธารณะแห่งชาติ Talk of the Nation แจ้งข่าวว่า ริชาร์ด นิกสัน(Richard Nixon)ได้ทำให้ประชาชนชาวอเมริกันต้องประหลาดใจ เมื่อเขาประกาศว่าเขาจะกลับมาเป็นประธานาธิปดีสหรัฐอีกครั้ง พร้อมเปิดคำขวัญรณรงค์ใหม่ว่า "I didn't do anything wrong, and I won't do it again.(ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดและฉันจะไม่ทำมันอีกแล้ว)" (ล้อนิกสันในเรื่องคดีวอเตอร์เกต) แถมมีคลิปเสียงของนิกสันซะด้วย ภายหลังก็มีการประกาศว่านี้เป็นการล้อเล่นวันเอพริลฟูลและเสียงของนิกสันนั้นเป็นเสียงของนักแสดงตลกคนหนึ่งปลอมเสียงไว้
(อัตราความเชื่อ 10 เนื่องจากอเมริกาหน่ายนิกสันเต็มแก่ เจอข่าวแบบนี้ก็เชื่อแหละ!!)
อันดับ 7: การเปลี่ยนแปลงค่า Pi ที่อาบาม่า (Alabama Changes the Value of Pi)
1998: หนังสือพิมพ์ New Mexicans for Science and Reason(เป็นหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับข่าววิทยาศาสตร์) ได้ลงข่าวว่ารัฐ Alabama มีออกเสียงโหวตให้เปลี่ยนแปลงค่า Pi จาก 3.14157 เป็น 3.0 ตามคัมภีร์ไบเบิลในศาสนาคริสต์ บทความดังกล่าวที่ว่าเริ่มต้นจากอินเตอร์เน็ตและมันไม่ช้ามันก็แพร่อย่างรวดเร็ว จนทางการของ Alabama ต้องรับโทรศัพท์อย่างหูดับปากไหม้โดยคนที่โทรมาคัดค้านบัญญัติกฎหมายเป็นร้อยๆ ราย ก่อนที่จะรู้ว่านี้เป็นการล้อเล่นในวันเอพริลฟูลจ้า(ฮ่าๆ) โดยเจ้าของเรื่องโกหกนี้เป็นนักฟิสิกส์คนหนึ่งที่ชื่อว่า Mark Boslough
(อัตราความเชื่อ5 เนื่องจากผมไม่รู้จักค่า Pi คืออะไร ใครไม่รู้ก็ไม่เดือดร้อนอะไร เหอๆ)
อันดับ 8: พิเศษสำหรับคนถนัดมือซ้าย (The Left-Handed Whopper)
1998: กษัตริย์เบอร์เกอร์(เบอร์เกอร์คิง-Burger King)ได้ลงโฆษณาทั่วอเมริกาว่า ท่านทั้งหลายจงลิ้มลองเมนูใหม่ของเรา ""The Left-Handed Whopper"หรือเบอร์เกอร์สำหรับคนถนัดซ้าย เราได้ออกแบบเบอร์เกอร์เพื่อชาวอเมริที่ถนัดมือซ้ายกว่า 32 ล้านคน เบอร์เกอร์ของเรานั้นมีองค์ประกอบเหมือนเดิมทุกอย่าง(ผักกระหล่ำ, มะเขือเทศ,ชีส ,เนื้อX แต่พิเศษคือทางเราได้ใช้เครื่องปรุงที่มีประโยชน์สำหรับคนถนัดซ้ายเท่านั้น (วันต่อมากษัตริย์เบอร์เกอร์ก็ออกข่าวว่านี้เป็นการล้อเล่นในวันเอพริลฟูล แต่กระนั้นลูกค้าจำนวนมากต่างเข้ามาในร้านและสอบถามเมนูนี้อย่างจ้าระหวั่น จนข่าวหนังสือพิมพ์ออกข่าวว่า "มีลูกค้าหลายรายเรียกร้องให้กษัตริย์เบอร์เกอร์ออกเมนูสำหรับคนถนัดขวาบ้างได้ไหม น้อยใจแล้วนะตัวเอง"
(อัตราความเชื่อ 2 ยังอุตส่าห์มีคนเชื่อเนอะ แต่เรื่องถนัดซ้าย-ขวานั้นก็ไม่เข้าใครออกใคร)
อันดับ 9: ตัวเจาะน้ำแข็ง(Hotheaded Naked Ice Borers)
1995: นิตยสาร Discover Magazine ลงข่าวว่านักสัตวชีววิทยา Dr. Aprile Pazzo ได้ค้นพบสัตว์ชนิดใหม่ในทวีปแอนตาร์กติก(ขั้วโลกใต้) และตั้งชื่อมันว่า Hotheaded Naked Ice Borers เป็นสัตว์ประหลาดดุร้ายที่มีกะโหลกศีรษะคล้ายแผ่นจานที่มีความร้อนสูงมาเนื่องจากมีเส้นเลือดไปไหลเวียนจำนวนมาก จนสามารถใช้ความร้อนจากศีรษะของมันขุดเจาะ หลอมหลายหิมะหรือน้ำแข็งได้อย่างสบายๆ โดยสัตว์ตัวนี้ใช้ความสามารถนี้ในการล่านกเพนกวินเป็นอาหาร และDr. Aprile Pazzo ยังกล่าวอีกว่าสัตว์ประหลาดชนิดนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักสำรวจทวีปแอนตาร์กติก Philippe Poisson ในปี 1837 "มันเจาะรูน้ำแข็งเพื่อล่อเขาให้ตก เพราะมันคงคิดว่าเขาเป็นนกเพนกวินนะ " Dr. Aprile กล่าวส่งท้าย
(อัตราความเชื่อ 6 เกือบเชื่อแล้ว มาเสียตรงเรื่อง Philippe Poisson นี้แหละ)
อันดับ 10: แรงดึงดูดลดลงเพราะการจัดเรียงของดาวนพเคราะห์ (Planetary Alignment Decreases Gravity)
1976: นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษ Patrick Moore ได้ประกาศผ่านวิทยุ BBC เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยากแต่เราทุกคนสามารถสัมผัสปรากฏการณ์นี้ได้ที่บ้านของตนเอง คือในเวลา 9:47 ดาวเคราะห์พลูโตจะโคจรไปอยู่ด้านหลังชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนเป็นสาเหตุให้แรงดึงดูดของโลกถูกหักล้างชั่วคราว ทำให้โลกของเราไร้แรงดึงดูดและแรงโน้นถ่วงของโลกลดลง ซึ่งผู้ชมทางบ้านสามารถพิสูจน์ด้วนการกระโดดสูงๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว
หลังจากออกข่าวนี้ มีผู้ชมทางบ้านหลายคนโทรถามปรากฏการณ์นี้เพียบ บางคนอ้างว่าตัวเองรู้สึกถึงการไร้แรงดึงดูดเลยไปเลย และผู้หญิงคนหนึ่งอ้าวว่าเพื่อน 11 คนของเธอลอยแบบไร้แรงดึงดูดไปรอบๆ ห้อง(เอ็งโกหกบ้าง ตรูก็โกหกบ้างสิ)
(อัตราความเชื่อ 8 ถ้ามีจริงๆ ก็ดีสิ)
อันดับ 11: ยูเอฟโอที่ลอนดอน(UFO Lands in London)
1989: วันที่ 31 มีนาคม 1989 ผู้คนที่กำลังขับรถยนต์ในทางด่วนของลอนดอน ต่างแตกตื่นเมื่อพบเห็นจานบินบนท้องฟ้าลึกลับลำหนึ่งรูปร่างเหมือนจานประหลาด และจานบินลำนั้นก็ร่อนลงพื้นๆ อย่างช้าๆ ท่ามกลางเหล่าตำรวจที่ถูกเรียกมารักษาความปลอดภัยเต็มท้องถนน เมื่อจานบินร่อนไปกับพื้น ตำรวจผู้กล้าคนหนึ่งได้เดินนำหน้าเพื่อเผชิญกับจานบินดังกล่าว และเมื่อประตูจานบินเปิดออกมา และมีร่างในชุดสีน้ำเงินลงมา ทุกคนต่างกริ๊ดๆ เป็นแถวๆ เพราะปรากฏว่าเป็นจานบินปลอมจ้า เนื่องจากจานบินที่ว่าเป็นเพียงบอลลูนที่ตกแต่งเหมือนจานบิน และคนที่เดินออกมาในชุดสีน้ำเงินก็เป็นผู้ชายธรรมด๊าธรรมดานามว่า Richard Branson อายุ 36 ปี โดยเขาเล่าว่าตอนแรกเขาจะร่อนจานบินล้อเล่นนี้ที่เมืองใน Hyde ในวันที่ 1 เมษายน แต่คำนวณพลาดไปหน่อย เพราะแรงลมไม่ดี เลยร่องลงแบบฉุกเฉินนี้แหละ
(อัตราความเชื่อ ไม่มี)
อันดับ 12: นกเพนกวินบินได้ (Flying Penguins)
2008: โลกตะลึง BBC ได้นำเอาภาพวีดีโอเหลือเชื่อที่มีคนเอากล้องไปถ่ายที่ขั้วโลกใต้มาแพร่ภาพ มันเป็นภาพวิวัฒนาการมหัศจรรย์ของนกเพนกวิน นั้นคือ "นกเพนกวินบินได้!!" โอ้พระเจ้าจอร์ด ฝูงนกเพนกวินหลายตัวใช้ปีกเล็กๆ ของมันบินราวกับฝูงเครื่องบิน ผู้รู้อธิบายอย่างมีหลักการว่า เป็นเพราะโลกร้อนนะ ทำให้อากาศขั้วโลกใต้แปรปรวน จนนกเพนกวินทนไม่ไหว มันเลยเร่งวิวัฒนาการตัวเองเพื่อบินได้ โดยมันจะบินอพยพลงไปในพื้นที่เขตร้อนหรือที่อบอุ่นกว่า เช่นอเมริกาใต้เป็นต้น
(อัตราความเชื่อ 6 โลกมันร้อนนี้)
อันดับ 13: ร่างที่พบในล็อกเนส (The Body of Nessie Found)
1972: 31 มีนาคม 1972 ทีมของนักสัตว์วิทยาจาก สวนสัตว์ Yorkshire's Flamingo Park กำลังตามล่าหาสัตว์ลึกลับที่ชื่อเนสซี จนกระทั้งค้นพบซากลึกลับของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนส พวกเขาแบกซากศพดังกล่าวเอาไปใส่รถตู้เพื่อนำไปตรวจสอบที่สวนสัตว์ แต่ระหว่างทางดันไปเจอตำรวจไล่หลัง เพราะตำรวจสงสัยว่ารถตู้คันนี้ใส่สิ่งผิดกฎหมาย และสั่งให้รถหยุดและตำรวจก็พูดกฎหมายว่าด้วยห้ามขนย้านสิ่งที่ไม่สามารถระบุได้จากทะเลสาปล็อกเนสปี 1933 ตำรวจทำการยึดซากดังกล่าวเอาไว้ และนำไปตรวจสอบที่อื่นและก็พบว่ามันเป็นซากศพของช้างน้ำธรรมดาเท่านั้น
วันต่อมาเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ John Shields ออกมารับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของเขาที่จะแกล้งเพื่อนร่วมงานในวันเอพริลฟูล โดยการนำซากช้างน้ำที่ตายแล้วกว่าสัปดาห์จากสวนสัตว์อื่น ตัดหนวดและขนของมันเสีย ยัดก้อนหินให้ตัวหนักขึ้นและแช่แข็งเอาไว้เป็นสัปดาห์ เมื่อถึงเวลาก็หย่อนลงไปในทะเลสาป และโทรศัพท์ลึกลับปลอมแจ้งเหตุ แต่สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในแผนก็คือดันไปเจอตำรวจระหว่างทางซะนี้
(อัตราความเชื่อ 0 เพราะตำรวจแท้ๆ เชียว ไม่งั้นเรื่องนี้จะฮ่ามากนะจะบอกให้)
อันดับ 14: เกี่ยวกับเวลา (Metric Time)
This Day Tonight รายการข่าวออสเตรเลียประกาศให้ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบมาตรเวลาใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงจากเดิมเป็น 100 วินาทีเท่ากับ 1 นาที. 100 นาทีเท่ากับ 1 ชั่วโมง และ 20 ชั่วโมงเท่ากับ 1 วัน นอกจากนี้ชื่อก็เปลี่ยนไปด้วย จากวินาทีกลายเป็นมิลลิเดย์ (millidays).นาทีเกลายเป็นเซนตริเดย์ (centridays), และชั่วโมงเกลายเป็นเดซิเดย์ (decidays) ราบการนี้มีการสัมภาษณ์กับนายกรัฐมนตรีด้วย รวมไปถึงการโชว์นาฬิกาแบบใหม่ที่มีหน้าปัด 10 ชั่วโมง ผลที่ตามมาคือคนหลายคนเชื่อซะด้วย
(อัตราความเชื่อ 8 ไม่มีข้อคิดเห็น.....)
อันดับ 15: การบินของผู้ชายคนหนึ่งโดยใช้พลังปอด(Man Flies By Own Lung Power)
1934: ในเมษายน 1934 หนังสือพิมพ์แห่งสหรัฐอเมริกาจำนวนมากมาย, รวมถึง The New York ได้ลงภาพชายคนหนึ่งที่บินขึ้นฟ้าด้วยอุปกรณ์ขับเคลิ้อรเฉพาะโดยใช้พลังลมหายใจ(เป่า)จากปอดของเขา หนังสือพิมพ์ได้สารยายสิ่งประดิษฐ์ใหม่อัศจรรย์นี้ว่า คนในภาพเป็นคนเยอรมันชื่อ Erich Kocher, ผู้สามารถเก็บลมหายใจใส่ในกล่องที่ติดกับหน้าอกซึ่งจะกระตุ้นให้เครื่องยนต์ทำงานและยกตัวเขาลอยเหนือพื้นดินสิ่ง โดยอุปกรณ์นี้ประกอบด้วยเกียร์เร่งและครีบหาง และตั้งชื่อว่า "เครื่องยนต์พลังปอด" ภายหลังก็รู้ที่มาว่าเป็นการล่อเล่นในวันเทศกาลคนโง่ของคนเบอร์ลิน
(อัตราความเชื่อ 3 ใช้พลังตดจะน่าเชื่อกว่า)
อันดับ 16: ก้อนน้ำแข็งยักษ์ที่ซิดนีย์(The Sydney Iceberg)
1978: เรือท้องแบนขนส่งลำหนึ่งปรากฏตัวในท่าเรือซิดนีย์ ที่น่าสนใจคือมันลากภูเขาน้ำแข็งยักษ์มาด้วย โดนมหาเศรษฐีเงินล้านผู้รักการผจญภัย Smith (เป็นเจ้าของร้านอาหาร ) กล่าวว่าเขาลากเจ้าก้อนน้ำแข็งนี้มาจากทวีปแอนตาร์ติก โดยเขาจะเฉือนเจ้าก้อนน้ำแข็งนี้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ขายให้แก่คนสนใจในราคา 10 เซ็นต์ โดยเขาอวดสรรพคุณว่าน้ำแข็งจากแอนตาร์ติกนะเป็นน้ำแข็งบริสุทธิ์, สด เวลาจะใส่ในเครื่องดื่มใดๆ จะทำให้รสชาติมันอร่อยขึ้น
แต่แล้วเรื่องความลับของน้ำแข็งยักษ์นี้ก็แตก เมื่อฝนตกลงมา ชะล้างเอาเศษโฟมและครีมโกนหนวดออกหมด ทกให้หลายคนรู้ว่าเจ้าน้ำแข็งก้อนนั้นคือขยะพลาสติกดีๆ นี่เอง
(อัตราความเชื่อ 8 เกือบจะซื้อแล้วสิ)
อันดับ 17: Bombs Away!
1915: เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงนะครับ วันที่ 1 เมษายน 1915 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นักขับเครื่องบินนาวาของฝรั่งเศสได้บินบนที่ตั้งค่ายทหารเยอรมันและหย่อนอะไรที่คล้ายๆ ระเบิดขนาดใหญ่ พวกทหารเยอรมันตกใจกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง แต่แล้วระเบิดก็ไม่ทำงานสักที ทหารเยอรมันเลยสงสัน ค่อยๆ มาใกล้ลูกระเบิดอย่างระมัดระวัง และทำการตรวจสอบก็พบว่ามันไม่ใช่ระเบิด แต่เป็นลูกฟุตบอลขนาดใหญ่ที่เขียนว่า "April fool!(เทศกาลคนโง่จ้า)"
(อัตราความเชื่อ ไม่มี)
อันดับ 18: แครอทพันธุ์ใหม่ (Whistling Carrots)
2002: โลกตะลึง!! ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ประเทศอังกฤษนาม Tesco ได้จัดทำโฆษณาประกาศว่าพวกเขาได้ออกสินค้าใหม่ชื่อ 'Whistling Carrots' เป็นหัวผักกาดแดง(แครอทนั้นแหละ)ที่ดัดแปลงพันธุกรรมอย่างเสร็จสมบูรณ์แบบ โดยแครอทชนิดพิเศษนี้มีจุดเด่นคือภายในจะมีโพรงมากมาย เวลาเหล่าแม่บ้านนำแครอทไปทำอาหาร โพลงเหล่านั้นจะส่งเสียงหวีดๆ เหมือนเสียงผิวปาก เสมือนแครอทเหล่านี้ร้องเพลงนั้นเอง
ขอบคุณที่มาจาก เด็กดี
No comments:
Post a Comment